
หลักสูตร :
Internal Control
(แนวคิดสมัยใหม่ในการควบคุมภายในทั่วทั้งองค์กร)
วิทยากร/ที่ปรึกษาในหลักสูตรนี้ :
อ.จิรพร สุเมธีประสิทธิ์ (ประวัติวิทยากร)
ระยะเวลา : 1 วัน / 6 ชั่วโมง
รหัส : ICR001
Conceptual Design
การควบคุมภายในยังเป็นหนึ่งในจุดอ่อนสำคัญ ที่บุคลากรในองค์กรอาจจะไม่รู้ตัว และประเมินตนเองแล้วมักจะมองไม่เห็นชัดเจน ขณะเดียวกันก็ไม่ค่อยมีองค์กรหรือหน่วยงานอื่นเข้ามาช่วยประเมินให้รับรู้กันอย่างถูกต้องตามหลักการและมาตรฐานสากลด้วย
ด้วยเหตุนี้ องค์กรต่างๆ จึงโชคดีที่ COSO เป็นหนึ่งในองค์กรที่สนใจจัดทำมาตรฐาน การควบคุมภายในและการบริหารความเสี่ยง ทำให้การบริหารจัดการทั้งสองเรื่องอย่างครบวงจร โดยเมื่อไม่นานมานี้ COSO ได้ทำการทบทวนและปัดฝุ่นมาตรฐานการควบคุมภายในครั้งใหญ่ เพื่อสังคายนา กรอบแนวคิดและแนวทางการควบคุมภายในจาก COSO 1992 จนได้มาเป็น COSO Integrated Internal Control 2013 ซึ่งเป็นฉบับล่าสุดของโลก
มาตรฐานการควบคุมภายใน COSO 2013 Updated Internal Control-Integrated Framework ตีพิมพ์ใช้ตั้งแต่ เดือนพฤษภาคม 2013 เริ่มมีผลใช้บังคับตั้งแต่ปี 2015 หลังจากกิจการต่างๆทั่วโลกได้มีเวลาในการศึกษาและเรียนรู้ตลอดตั้งแต่ปี 2014 ที่ผ่านมา และปัจจุบัน ตลาดหลักทรัพย์ฯ บังคับใช้ COSO 2013 ภายใต้แบบ 69-1
ความยากลำบากจึงอยู่ที่การทำแผนงานให้เกิดการปรับเปลี่ยนระบบการควบคุมภายในสู่มาตรฐานใหม่นี้ให้เป็นไปอย่างราบรื่น เกิดประสิทธิผลและเกิดประโยชน์แก่กิจการตามความคาดหวังของกิจการเอง หน่วยงานกำกับ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน
ตามกรอบแนวทางการควบคุมภายในที่ปรับปรุงสู่เวอร์ชั่นใหม่ของโลก COSO 2013 มีหลักการที่กำหนดใหม่ 17 หลักการ 77 ประเด็นมุ่งเน้น จึงไม่ใช่เรื่องง่าย หากไม่มีวิธีดำเนินงานที่ชัดเจนเป็นแนวทางและให้ทิศทาง หรืออาจจะต้องใช้ระยะเวลานาน หากไม่มีช่องทางการเรียนลัด
Objectives
1. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้เข้าใจแนวคิดการควบคุมภายในสมัยใหม่ตามกรอบแนวคิด COSO 2013 Internal Control-Integrated Framework ทั้ง 5 องค์ประกอบ
2. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้รับรู้เหตุผลเบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงกรอบแนวคิด COSO และเหตุผลที่จะทำให้กิจการต้องมี
3. การปรับเปลี่ยนระบบการควบคุมภายใน
4. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้รับทราบแนวทางปฏิบัติในการพัฒนาแผนปฏิบัติการ (Action Plan) ในการประเมินช่องว่างของระบบการควบคุมภายในของกิจการเทียบกับกรอบแนวคิดใหม่ ผ่านเครื่องมือที่เรียกว่า Risk-Control Matrix เพื่อทำแผนการควบคุมภายในประจำปี
Key Topic
แบบที่ 1 (1 วัน)
Day 1 – วันที่ 1 ช่วงเช้า (09.00-10.30 น.)
- แนวคิดเชิงทฤษฎีของการควบคุมภายในและมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง
- มาตรฐานของตลาดหลักทรัพย์ที่กำกับบริษัทจดทะเบียน
- ความคาดหวังของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย สังคม
- โครงสร้างของระบบควบคุมภายในที่ดีสมัยใหม่
Day 1 – วันที่ 1 ช่วงเช้า (10.45-12.00 น.)
- บทบาทของผู้บริหารตามกรอบแนวทางใหม่ 3 LINES OF DEFENSE
- First Line of Defense
- Second Line of Defense
- Third Line of Defense
- หลักการ กระบวนการค้นหา ระบุ วิเคราะห์ความเสี่ยงสมัยใหม่ (Risk Assessment)
- การพัฒนาฐานความเสี่ยงและเหตุการณ์ความเสี่ยงด้วย Check list
- การนำเหตุการณ์ความเสี่ยง หาปัจจัยความเสี่ยงภายในและภายนอก
Day 1 – วันที่ 1 ช่วงบ่าย (13.00-14.30 น.)
- หลักการ เทคนิคการประเมินความเพียงพอของการควบคุมความเสี่ยงในปัจจุบัน
- เครื่องมือการประเมินและจัดเรียงลำดับความเสี่ยง ด้วย Risk-Control Matrix
Day 1 – วันที่ 1 ช่วงบ่าย (14.45-16.00 น.)
- ตัวชี้วัดความเสี่ยง (KCIs) และการจัดทำรายงานการควบคุมภายในและบริหารความเสี่ยงสมัยใหม่
- การส่งต่อจากการควบคุมภายในสู่การบริหารความเสี่ยง
- กิจกรรม Mini-Workshop
# เบรคเช้า – 10.30-10.45 น.
# รับประทานอาหารกลางวัน – 12.00-13.00 น.
# เบรคบ่าย – 14.30-14.45 น.
ทั้งนี้ ช่วงเวลาสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม
แบบที่ 2 (2 วัน)
กรุณาติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่เพื่อออกแบบหลักสูตรเพิ่มเติม
แบบที่ 3 (2.5 วัน)
กรุณาติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่เพื่อออกแบบหลักสูตรเพิ่มเติม
แบบที่ 4 (3 วัน)
กรุณาติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่เพื่อออกแบบหลักสูตรเพิ่มเติม
Target Group
1. Top Management (Executives,C-Level,Director)
2. Middle Management (Manager & Asst. Manager)
3. Front-Line Management (Sr.Supervisor,Supervisor)
หลักสูตรการควบคุมภายในเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อบุคลากรในหลากหลายบทบาทที่ต้องการพัฒนาทักษะและความรู้ในการบริหารจัดการองค์กรให้มีประสิทธิภาพและโปร่งใสมากยิ่งขึ้น อาทิ เช่น
ผู้บริหารระดับสูง: เพื่อให้เข้าใจภาพรวมของระบบควบคุมภายใน และสามารถกำหนดนโยบายและกลยุทธ์ในการบริหารความเสี่ยงขององค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผู้ตรวจสอบภายใน: เพื่อพัฒนาทักษะในการประเมินและรายงานผลการตรวจสอบระบบควบคุมภายใน ให้สามารถระบุจุดอ่อนและเสนอแนะแนวทางการปรับปรุงได้อย่างถูกต้อง
ฝ่ายบัญชีและการเงิน: เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจในหลักการควบคุมภายในที่เกี่ยวข้องกับการรายงานทางการเงิน และสามารถปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้องตามมาตรฐาน
เจ้าหน้าที่หรือพนักงานผู้ปฏิบัติงาน: เช่น ผู้จัดการฝ่ายต่างๆ พนักงานในสายการผลิต เพื่อให้ตระหนักถึงความสำคัญของการควบคุมภายในในงานที่ตนรับผิดชอบ และสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใส
โดยสรุปแล้ว ทำให้เข้าใจหลักการและแนวคิดของการควบคุมภายในอย่างถ่องแท้
เพื่อให้สามารถระบุและประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ และปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ / ลดความผิดพลาดและความสูญเสีย/ สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งภายในและภายนอกองค์กร รวมทั้งทำให้องค์กรปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับต่างๆ ที่เกี่ยวข้องตรงตามทิศทางที่องค์กรได้วางแนงทางไว้
Goal
การอบรมหลักสูตรควบคุมภายใน (Internal Control) นั้นจะนำมาซึ่งประโยชน์และผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมต่อทั้งองค์กรและบุคลากรที่เข้ารับการอบรมอย่างมากมาย อาทิ เช่น
- ความรู้และความเข้าใจที่ลึกซึ้ง : ผู้เข้าอบรมจะมีความรู้ความเข้าใจในหลักการและแนวคิดของการควบคุมภายในที่ชัดเจนมากขึ้น สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการทำงานได้อย่างถูกต้อง
- ทักษะในการออกแบบระบบควบคุมภายใน : สามารถออกแบบและพัฒนาระบบควบคุมภายในให้เหมาะสมกับงานและกระบวนการต่างๆ ภายในองค์กร
- การตระหนักถึงความสำคัญของการควบคุมภายใน : ผู้เข้าอบรมจะตระหนักถึงความสำคัญของการควบคุมภายในในการป้องกันการทุจริต การสูญเสีย และการไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย
- การพัฒนาทักษะในการแก้ปัญหา : สามารถวิเคราะห์ปัญหาและหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมภายในได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- การปรับปรุงกระบวนการทำงาน : การประเมินและปรับปรุงระบบควบคุมภายในอย่างสม่ำเสมอจะช่วยปรับปรุงกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
- การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน : การปฏิบัติงานที่เป็นไปตามระบบและมีการควบคุมจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ลดความผิดพลาด และลดต้นทุน
- การปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับ : องค์กรจะสามารถปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับต่างๆ ที่เกี่ยวข้องได้อย่างถูกต้อง
- การสร้างความน่าเชื่อถือ : ระบบควบคุมภายในที่ดีจะสร้างความน่าเชื่อถือให้กับองค์กรทั้งภายในและภายนอก
Utimate Goal
หากผู้เข้าร่วมอบรมสามารถปรับประยุกต์ได้เป็นอย่างดี ได้อย่างเชี่ยวชาญ โดยผสมผสานทั้งความรู้และประสบการณ์แล้ว จะสามารถถอด Vision / Mission / Strategic Positioning ขององค์กร ออกมาได้อย่างมีนัยยะสำคัญ เพื่อรองรับการ Implement ทั้งประเภทและระดับการขับเคลื่อนนั้นๆ ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมที่สุดกับองค์กรที่มีความพิเศษเฉพาะตัว ทั้งนี้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายสูงสุดขององค์กรที่ได้วางเอาไว้ ตาม Vison & Mission ซึ่งจะนำไปเชื่อมโยงกับระบบขับเคลื่อนองค์กรทั้ง 4 Mechanism of Strategic Management ได้แก่
1. Strategic Map & Formulation การวางตำแหน่งในแผนที่ทางธุรกิจเชิงยุทธศาสตร์ของ องค์กรและการกำหนดแผนกรดำเนินงานตามแผนที่นั้น
2. Strategic Implement การดำเนินงานเชิงกลยุทธ์ที่มาจากแผนกลยุทธ์แล้วนำไปสู่การปฏิบัติเชิงกลยุทธ์
3. Strategic Monitoring การติดตามผลการดำเนินงานเชิงกลยุทธ์
4. Strategic Measurement การวัดผลและประเมินผลการดำเนินงานตามการจัดการเชิงกลยุทธ์
โดยขับเคลื่อนด้วย 3 เรื่องหลักในองค์กรเป็นสำคัญ ได้แก่
Management Strategy > Business Strategy > HRM & HRD Strategy


แนะนำกลุ่มหลักสูตรสำหรับการติดตามผล
- Group Coaching by one on One for Strategic Implement (Online / Onsite)
- Prioritizing Project for Strategic Plan & Implement
- Presentation for Strategic Project with Top Management / Executive (Persuasive Communication)
- Presentation for Action Plan with Top Management / Executive (Persuasive Communication)
- Strategic Alignment & Realignment
- HRM &HRD Strategy